|
|
ชื่อ Thai Name |
แก้ว Kaeo |
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ Scientific Name |
Murraya paniculata (L.) Jack |
|
วงศ์ Family |
RUTACEAE |
||
ชื่ออื่น ๆ Other Name |
กะมูกนิง ka-mu-ning (มะลายู-ปัตตานี) แก้วขาว kaeo khao (ภาคกลาง) แก้วขี้ไก่ kaeo khi kai (ยะลา) แก้วพริก kaeo phrik ตะไหลแก้ว talai kaeo (ภาคเหนือ) แก้วลาย kaeo lai (สระบุรี) จ๊าพริก cha phrik (ลำปาง) Andaman satinwood, Chinese box tree, Moxk orange, Orange jasmine |
||
ลักษณะ Characteristics |
ไม้ต้น สูง 5-10 เมตร เปลือกต้น สีเทา แตกเป็นร่อง เนื้อไม้ สีขาวนวล ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ รูปไข่ ปลายและโคนแหลม ขอบใบ เป็นคลื่นหรือหยักมนเล็กน้อย มีต่อมน้ำมัน เมื่อขยี้จะมีกลิ่นฉุนคล้ายผิวส้ม เป็นมันติดมือ ดอกออกเป็นช่อสั้น ๆ ตามซอกใบ สีขาว มีกลิ่นหอมแรง ออกดอกได้ตลอดทั้งปี ผล กลมรีหรือรูปไข่ ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกสีแดงอมส้ม ผิวผลมีต่อมน้ำมันเห็นได้ชัดเจน เมล็ด รูปรี มีขนหนาและเหนียวหุ้มรอบเมล็ด |
||
การกระจายพันธุ์ Distribution |
พบขึ้นตามป่าดิบแล้งจากที่ราบสูงจนถึงที่ความสูงจากระดับทะเลประมาณ 400 เมตร ในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาค มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศจีน และในออสเตรเลีย
|
||
ประโยชน์ Utilization |
ราก รสเผ็ดขมสุขุม แก้ปวดเอว แก้ผื่นคันที่เกิดจากความชื้น แก้ฝีฝักบัวที่เต้านม แก้ฝีมดลูก แผลคัน พิษแมลงสัตว์กัดต่อย กิ่งและใบสด รสเผ็ดร้อนขม บดแช่แอลกอฮอล์ 1 วัน ใช้ทาหรือเป็นยาฉีดระงับปวด ต้มอมบ้วนปากแก้ปวดฟัน ก้านใช้ทำความสะอาดฟัน ใบ รสร้อนเผ็ดขม แก้ปวดท้อง แก้บิด ขับโลหิต แก้ท้องเสีย ขับพยาธิ ดอก แก้ไอเรื้อรัง แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ แก้เวียนศีรษะ และช่วยเจริญอาหาร เนื้อไม้ ใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องกลึง ด้ามเครื่องมือ เครื่องใช้ ซอด้วง ซออู้ ไม้คาน หวี Leaf: antidysenteric, anthelmintic ; Flower: antipyretic |
||
แหล่งข้อมูล Reference |
- สมุนไพรไทย มรดกไทย น. 162 - สมุนไพรไทย น. 55 - สมุนไพรไม้พื้นบ้าน (1) น. 293-300 - สารานุกรมสมุนไพร น. 110 |
||
พิกัด |
13º 45´ 27.2" N 101º 30´ 43.3" E |
||
คิวอาร์โค้ด QR Code |
|
ขยายพันธุ์โดย : การเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง ต้นแก้วสามารถจะปลูกในดินเกือบทุกชนิด ยกเว้นดินทรายจัด เพราะการอุ้มน้ำไม่ดีและมีธาตุอาหารน้อย ซึ่งจะทำให้การเจริญเติบโตของต้นแก้วไม่ดี การปลูก ใช้กิ่งตอนที่มีรากพอควร เอาไปปลูกในกระถางหรือกระบะปลูกเพื่อให้ต้นพืชที่เกิดจากกิ่งตอนมีระบบรากแข็งแรง พอที่จะหาอาหารเลี้ยงลำต้นได้ แล้วนำไปปลูกในหลุมที่มีปุ๋ยรองพื้นบ้าง อาจจะเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก แล้วรดน้ำทุกเช้าในระยะปลูกใหม่ ๆ
|