|
|
ชื่อ Thai Name |
กุ๊ก Kuk |
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ Scientific Name |
Lannea coromandelica (Houtt.) Merr. |
|
วงศ์ Family |
ANACARDIACEAE |
||
ชื่ออื่น ๆ Other Name |
กอกกั๋น kok kan (อุบลราชธานี) ช้าเกาะ cha ko, ช้างโน้ม chang nom (ตราด) ซาเกะ sa ke (สุราษฎร์ธานี) ตะคร้ำ ta khram (กาญจนบุรี ราชบุรี) ปีเชียง pi chiang (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) แม่หยู่ว้าย mae-yu-wai, เส่งลู้ไค้ seng-lu-khai (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) หวีด wit (เชียงใหม่) อ้อยช้าง oi chang (ภาคเหนือ) Indian ash tree |
||
ลักษณะ Characteristics |
ไม้ต้น ผลัดใบ สูงถึง 17 เมตร เปลือกต้นเรียบ หรือแตกเป็นสะเก็ด สีเขียวแกมเทา เปลือกในสีชมพู เป็นเส้นใย มียางเหนียวใส กิ่งอ่อนมีขนสั้นนุ่มรูปดาว และมีช่องอากาศ ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ มี 3 - 5 ใบย่อย เรียงสลับ ดอกช่อ แยกเพศอยู่ต่างต้น ดอกสีเหลืองอ่อนหรือเขียวอมม่วง ผลสีชมพู เมื่อสุกสีแดง |
||
การกระจายพันธุ์ Distribution |
พบตามป่าผลัดใบ ป่าเต็งรัง ที่ความสูงจากระดับทะเลจนถึงประมาณ 1,500 เมตร ออกดอกและผลระหว่างเดือนกรกฎาคม-มีนาคม |
||
ประโยชน์ Utilization |
รากหรือเปลือกต้น แก้ท้องเสีย เปลือกต้น รสขม สมานแผลและห้ามเลือด แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้ปวดท้อง เป็นยาธาตุ หรือช่วยเจริญอาหาร ใช้แก้ปวด ใช้รักษาบาดแผล แก้รอยฟกช้ำ แผลผุพอง ตาอักเสบรุนแรง โรคเกาต์ แผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร แก้ปวดฟัน อาการแพลง และท้องร่วง แก่น รสหวาน ทำให้ชุ่มชื่นในลำคอ แก้กระหายน้ำ แก้ไอ ใช้ปรุงแต่งรสยาให้มีรสหวาน น้ำยางและใบ แก้ไอเป็นเลือด Stem bark: astringent ; Wood: cough remedy |
||
แหล่งข้อมูล Reference |
- กกยาอีสาน น. 155 - สมุนไพรไม้พื้นบ้าน (5) น. 350-351 - สมุนไพรไทย ตอนที่ 1 น. 65 - พรรณไม้พื้นบ้านอีสาน เล่ม 1 น. 34-35 |
||
คิวอาร์โค้ด QR Code |
|
ขยายพันธุ์โดย : การเพาะเมล็ด เพาะขยายพันธุ์ยาก เมื่อผลสุกหรือแก่เต็มที่จะล่วงล่นลงมา ให้เก็บผลใส่ถังและแช่น้ำปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2–3 วัน เปลือกและเนื้อหุ้มเมล็ดจะเน่าเปื่อยเก็บเอาเฉพาะส่วนที่เป็นเมล็ดนำมาล้างน้ำให้สะอาดและตากให้แห้ง เตรียมถุงเพาะชำ แล้วนำเอามล็ดไปเพาะในถุงเพาะชำโดยฝังลึกประมาณ 3 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่มวางไว้ในสถานที่แดดรำไรประมาณ 30 – 40 วัน เมล็ดก็จะเริ่มงอก ดูแลรักษารดน้ำให้สม่ำเสมอ เมื่อต้นกล้าแข็งแรงก็สามารถย้ายปลูกได้ การขยายพันธุ์อีกวิธีหนึ่ง คือ การชำราก โดยการขุดเอารากแขนง ตัดเป็นท่อนแล้วนำไปฝังในถุงเพาะชำ รดน้ำให้สม่ำเสมอประมาณ 20 – 30 วัน ก็จะสามารถเกิดเป็นต้นใหม่ได้ |