|
|
ชื่อ Thai Name |
กระเบากลัก Krabao klak |
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ Scientific Name |
Hydnocarpus ilicifolia King
|
|
วงศ์ Family |
ACHARIACEAE |
||
ชื่ออื่น ๆ Other Name |
กระเบาซาวา kra-bao-sa-wa (เขมร-กาญจนบุรี) กระเบาพนม kra-bao-pha-nom (เขมร-สุนินทร์) กระเบาลิง krabao ling (ทั่วไป) กระเบาหิน krabao hin (อุดรธานี) กระเบียน krabian, ขี้มอด khi mot (จันทบุรี) กระเรียน krarian (ชลบุรี) คมขวาน khom khwan (ประจวบคีรีขันธ์) จ้าเมี่ยง cha miang (แพร่ สระบุรี) ดูกช้าง duk chang (กระบี่) บักกราย bak-krai, พะโลลูตุ้ม pha-lo-lu-tum (มลายู-ปัตตานี) หัวค่าง hua khang (ภาคใต้) |
||
ลักษณะ Characteristics |
ไม้ต้น สูงถึง 30 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่-ขอบขนาน ขอบใบจักรฟันเลื่อยห่าง ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสมมาตร ผิวเกลี้ยง เนื้อใบค่อนข้างหนา ช่อดอกแบบช่อกระจุกสั้น แยกเพศอยู่ต่างต้น ออกที่ง่ามใบ มีขนสีน้ำตาลแดง กลีบเลี้ยง 4 กลีบ ค่อนข้างกลม กลีบดอก 4 กลีบ สีขาวหรือเหลืองอมเขียว รูปขอบขนาน ปลายตัด ยาวไล่เลี่ยกับกลีบเลี้ยง มีขนที่ปลายกลีบ ด้านนอกเกลี้ยง ที่โคนด้านในมีเกล็ดรูปเกือบสี่เหลี่ยม ดอกเพศผู้มีเกสรเพศผู้ 14–20 อัน ก้านชูอับเรณูสั้น มีขน ดอกเพศเมียมีเกสรเพศผู้ไม่สมบูรณ์ประมาณ 15 อัน รังไข่รูปไข่ มีขนสีน้ำตาลแดง ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 4 แฉก ผลรูปกลม ผิวเรียบ เปลือกแข็ง มีขนนุ่มเหมือนกำมะหยี่ สีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลดำ มี 10–15 เมล็ด เมล็ดอัดกันแน่น รูปไข่ |
||
การกระจายพันธุ์ Distribution |
พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ตามเขาหินปูน และใกล้ชายทะเล จนถึงที่ความสูงจากระดับทะเลประมาณ 800 เมตร ในประเทศไทยพบทั่วทุกภาค ในต่างประเทศพบที่ภูมิภาคอินโดจีนและแหลมมลายู |
||
ประโยชน์ Utilization |
รากและเนื้อไม้ รักษาโรคผิวหนัง ขับเสมหะ ใบ รักษาแผลสด รักษากลากเกลื้อน เมล็ด รักษาโรคผิวหนัง โรคเรื้อน ชันนะตุ หิด และวัณโรค Root and wood: antipruritic, expectorant |
||
แหล่งข้อมูล Reference |
- พืชสมุนไพรในประเทศไทย ตอนที่ 3 น. 104-105 - สมุนไพรไทย น. 33 - สมุนไพรไม้พื้นบ้าน (1) น. 109 - สมุนไพรไทย ตอนที่ 6 น. 9-10 |
||
พิกัด UTM |
101º 30´ 25.4" E 13º 45´ 01.1" N 47P 0771164 m.E 1521514 m.N |
||
คิวอาร์โค้ด QR Code |
ขยายพันธุ์โดย : การเพาะเมล็ด ชอบน้ำปานกลางและแสงแดดแบบครึ่งวัน |