|
|
ชื่อ Thai Name
|
พลับพลึง Phlap phlueng |
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ Scientific Name |
Crinum asiaticum L. var. asiaticum |
|
วงศ์ Family |
AMARYLLIDACEAE |
||
ชื่ออื่น ๆ Other Name |
พลับพลึงทอง (ทั่วไป) พลึงเล (นราธิวาส) ลิลัว (ภาคเหนือ) Cape lily, Giant lily, Golden-leaf Crinum lily, Poison bulb, Spider lily |
||
ลักษณะ Characteristics |
ไม้ล้มลุก สูงประมาณ 1 เมตร มีหัวใต้ดิน แตกลำต้นเป็นกอ กาบใบหุ้มซ้อนกันเป็นชั้น ใบเดี่ยว เรียงซ้อนสลับ ใบรูปแถบยาว ปลายใบแหลม ใบอวบน้ำ ขอบใบเป็นคลื่น ก้านใบเป็นกาบหุ้มลำต้น ดอกช่อ แทงออกจากกลุ่มใบตอนปลาย ดอกอ่อนมีกาบสีเขียวอ่อน ดอกสีขาว โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบดอกยาว เกสรสีแดง |
||
การกระจายพันธุ์ Distribution |
เป็นพรรณไม้ที่สามารถพบได้ในประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง
|
||
ประโยชน์ Utilization |
ใบ รสเอียน ใช้ย่างเพื่อประคบ ลดอาการฟกช้ำบวม เคล็ด ขัด ยอก เมล็ด รสเฝื่อน ขับปัสสาวะ บำรุงร่างกาย ช่วยระบาย ขับระดู หัว รสขม ระบายท้อง ขับเสมหะ แก้น้ำดีพิการ ราก รสเฝื่อน เคี้ยวกลืนน้ำกินทำให้อาเจียน ตำพอกบาดแผล แก้พิษยางน่อง วิธีใช้ “เป็นยาประคบ สูตรแก้ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ช่วยบำรุงผิว” |
||
แหล่งข้อมูล Reference |
- สมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ น. 91 - สมุนไพรไทย น. 193 - สมุนไพรไม้พื้นบ้าน (3) น. 286-288 - สมุนไพรไทย ตอนที่ 1 น. 59-60 |
||
พิกัด UTM |
47P 0771389 m.E 1520914 m.N |
||
คิวอาร์โค้ด QR Code |
|
ข้อควรระวัง ไม่ควรรับประทานใบพลับพลึง เนื่องจากมีฤทธิ์ทำให้อาเจียนและท้องร่วงอย่างแรง ผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการชา หากใช้ใบพลับพลึงประคบร้อน ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง |
||
|