3240600143450

ชื่อ

Thai Name  

สะเดา

Sa dao

ชื่อวิทยาศาสตร์ 

Scientific  Name
           

Azadirachta indica A. Juss.    

วงศ์

Family         

MELIACEAE  

ชื่ออื่น ๆ

Other Name   

กะเดา (ภาคใต้) สะเลียม (ภาคเหนือ) Siamese neem tree          

ลักษณะ 

Characteristics

ไม้ต้น สูง 5-10 เมตร เปลือกต้นแตกร่อง
ยอดอ่อนสีน้ำตาลแด ใบประกอบ แบบ ขนนก ออกเรียงสลับรูปใบหอก ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง สีขาวนวล ผล สีเหลืองส้ม เมล็ดเดี่ยว รูปรี

การกระจายพันธุ์

Distribution       

พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง ที่ที่ความสูงจากระดับทะเล 50-300 เมตร ในทุกภาคยกเว้นภาคใต้ ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม                    

ประโยชน์            

Utilization             

ราก แก้ไข้ ทำให้อาเจียน เปลือก แก้ท้องเดิน แก้บิดมูกเลือด

ก้านใบ แก้ไข้ ใบและเมล็ด ฆ่าแมลง

ดอก บำรุงธาตุ ผล แก้ปัสสาวะพิการ แก้ริดสีดวง ถ่ายพยาธิ

น้ำมันจากเมล็ด รักษามาลาเรียเรื้อรัง ซิฟิลิส โรคเรื้อน และโรคผิวหนังอื่น ๆ

เนื้อไม้ ใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือน ยาง ให้สีเหลืองใช้ย้อมผ้า

ในทางสมุนไพร

ดอก ยอดอ่อน บำรุงธาตุ ขับลม
เปลือกต้น รสขมฝาดเย็น แก้ไข้ เจริญอาหาร แก้ท้องเดิน บิดมูกเลือด
ใบอ่อน รสขม แก้โรคผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร

วิธีใช้ “แก้นอนไม่หลับ”

ใช้ใบและก้านสะเดา 1 กำมือ ต้มเดือด
ในน้ำท่วมตัวยา 5-10 นาทีดื่ม 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง

แหล่งข้อมูล

Reference   

- สมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ น. 60

- สมุนไพรไทย มรดกไทย น. 98

- สมุนไพรไทย น. 292

- สมุนไพรไม้พื้นบ้าน (4) น. 520-557 

- สมุนไพรไทย ตอนที่ 7 น. 134-136

พิกัด

UTM

47P 0770709 m.E 1521671 m.N

47P 0770736 m.E 1521636 m.N

47P 0771106 m.E 1520404 m.N

47P 0771247 m.E 1521693 m.N

47P 0771291 m.E 1521663 m.N

คิวอาร์โค้ด

QR Code

ขยายพันธุ์โดย  การเพาะเมล็ด                                                                                                                                                                                                                                

ข้อควรระวัง

1. น้ำมันสะเดาและเปลือกสะเดาอาจทำให้แท้งบุตรและไม่มีน้ำนมได้
2. ผู้มีความดันโลหิตต่ำไม่ควรรับประทานสะเดา เพราะทำให้น้ำตาลในเลือดลด อาจทำให้เป็นลม หมดสติ หรือวูบได้ง่าย
3. ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับช่องท้อง เช่น โรคกรดไหลย้อน ภาวะเรอเปรี้ยว แสบร้อนกลางอก เพราะรสขมช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำย่อย